วิสัยทัศน์..โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ผู้เรียนมีคุณธรรมนำความรู้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน โดยความร่วมมือของบุคลากร มืออาชีพกับชุมชน
พันธกิจ..1. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี
2. จัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นคุณธรรม ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและบุคลากรได้รับการพัฒนาด้วยวิธีการที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง
4. ประสานขอความร่วมมือกับองค์กรทุกภาคส่วนที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ปรัชญา.. “ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก”
คติพจน์.. ตั้งใจศึกษา พัฒนาสังคม อบรมตนดี วิถีบัณฑิต
ประวัติโรงเรียนและก่อตั้งโรงเรียน
๑.๑ สถานที่ตั้ง
โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา ตั้งอยู่เลขที่ ๖๗๔ ถนนบุษบา วัดท่าหลวง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ๖๖๐๐๐ ซึ่งอยู่ในบริเวณของวัดท่าหลวง ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณร ได้เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เริ่มเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓ ใบอนุญาตเลขที่ ๒๕/๒๕๔๓ ลง ณ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓ ลงลายมือชื่อ นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา
๑.๒ ความเป็นมา
โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา นั้นเดิมเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เปิดการเรียนการสอนแผนกธรรม – บาลี แก่พระภิกษุสามเณร จนกระทั่งปี พุทธศักราช ๒๕๔๓ พระเดชพระคุณพระสุทัสสีมุนีวงศ์ (นามเดิม) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมการศึกษาของคณะสงฆ์ขึ้นมาโดยเฉพาะ จึงได้จัดประชุมคณะสงฆ์และกรรมการของวัดในเรื่องนี้ และได้แนวสรุปว่าจะดำเนินการ เปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาซึ่งเป็นการเรียนทั้งทางธรรมและทางโลกควบคู่กันไป ซึ่งเป็นการเรียนการสอนสำหรับพระภิกษุสามเณร โดยจัดการเรียนการสอนเป็น ๒ ระดับคือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม. 1-3) และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4-6)
ดั้งนั้น จึงได้จัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมอาคารโรงเรียนและบริเวณอาคารสถานที่เป็นเงินทั้งสิ้น ๘๕๐,๐๐๐ (แปดแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และได้ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยาและยังจัดสรรเงินเพื่อใช้ในโรงเรียนประมาณสองล้านบาทถ้วน เพื่อการบริหารเงินเดือนจัดซื้อเครื่องวัสดุครุภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการศึกษา
ซึ่งได้รับการอนุญาตและอนุมัติให้เป็นโรงเรียนในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓ ได้ชื่อเป็นทางการว่า “ โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา”
ผู้บริหารโรงเรียนปัจจุบัน
๑. พระราชวิจิตรโมลี (บุญมี ปริปุณโณ) เป็นประธานที่ปรึกษา
๒. พระครูศรีปริยัติวิสิฐ ( พระมหาสุพิน ธมฺมวิริโย) ผู้จัดการ
๓. พระเมธีธรรมประนาท (พระมหาปรีชา ปฏิภาณเมธี) ผู้อำนวยการ
๔. พระครวชิรพุทธานุกูล (พระมหาวิรัช วิโรจโน) รองผู้อำนวยการ
โดยแยกกลุ่มบริหารดังต่อไปนี้
พระปลัดณรงค์ธรรม กตธมฺโม หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ
พระสมุห์สมนึก ฐิตสาสโน หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไป
พระมหาชิตพล อตฺตคุตฺโต หัวหน้ากลุ่มบริหารงานบุคคล
บุคลากรบรรพชิต 10 รูป และคฤหัสถ์..5 คน จำนวนนักเรียน.. 149 รูป
…ได้เปิดการเรียนการสอนแบบ 2 แผนก
แผนกทางโลก เรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้ง 8 กลุ่มสาระ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาอังกฤษ
แผนกทางธรรม ได้แก่ หลักสูตรปริยัติธรรม คือ เรียนนักธรรมตรี-โท-เอก , เรียนภาษาบาลี ประโยค 1-2 เปรียญธรรม 3 ประโยค และเปรียญธรรม 4 ประโยค เป็นต้น ทุกกลุ่มสาระได้บูรณาการศึกษาเข้ากับหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร
รูปแบบการเรียนการสอน...ม.ต้นและม.ปลาย
ภาคเช้า เรียนวิชาภาษาบาลี เวลา 08.30 – 10.50 น.
ภาคเที่ยง เรียนวิชาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ เวลา 12.00 – 17.00 น.
ภาคค่ำ ท่องแบบไวยากรณ์ภาษาบาลีหรือแปลภาษาบาลีมคธเป็นไทย เวลา 18.30 – 21.00 น.
รูปแบบการเรียนแบบไตรสิกขา (ศีล ดี ,สมาธิ สุข ,ปัญญา เก่ง )
1 . ด้านศีล (ดี) จัดการศึกษาดังนี้ 1. จัดระเบียบแถวก่อนเรียน สวดมนต์ทุกเช้า 2. กิจกรรมสร้างความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง 3.ปลูกจิตสำนึกการพัฒนาสังคม ความกตัญญูกตเวที อันเป็นวิถีบัณฑิตที่ตนตั้งเป้าหมายไว้
2. ด้านสมาธิ (สุข) จัดการศึกษาดังนี้ 1. จัดให้มีทำวัตร สวดมนต์ ทุกเย็นที่พระอุโบสถหรือที่หอฉัน 2. เจริญสมาธิ 3. สามเณรนักเรียนทุกรูปปฏิบัติธรรมประจำปีนอกสถานที่ 3 วัน
3. ด้านปัญญา (เก่ง) คือ ฟัง คิด ฝึกประสบการณ์ จัดการศึกษาดังนี้
การฟัง ได้แก่ ฟังบรรยายจากการเรียนการสอนทั้งจากครูประจำ ครูพิเศษ และวิทยากร
การคิด ได้แก่ 1. จัดห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรู้ สำหรับค้นคว้าหาข้อมูลได้ 2. จัดนิทรรศการตามแต่ละห้องตามกลุ่มสาระ ให้นักเรียนได้ศึกษาตามแต่สนใจ 3. นำนักเรียนศึกษาแหล่งการเรียนรู้ ยาสมุนไพรของโรงเรียน
ฝึกประสบการณ์ ได้แก่ 1. นักเรียนทุกรูปไปทัศนศึกษานอกสถานที่ภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย
2. นักเรียนทุกรูปปฏิบัติธรรมประจำปี ตามสถานที่ต่างๆ
กิจกรรมการจักการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จะทำให้ผู้เรียนได้รู้ทักษะจาการฟัง พูด อ่าน เขียน ได้อย่างคล่องแคล่วและสร้างสรรค์
- กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
จะทำให้ผู้เรียนอย่างมีความสุข ด้วยกระบวนการแบบประยุกต์ ทำให้นักเรียนเรียนรู้การคิดได้เป็นอย่างดี
- กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ศาสตร์แห่งเหตุและผล จะทำให้ผู้เรียนเข้าจะใจธรรมชาติมากขึ้นและรักพระพุทธศาสนามากขึ้น เพระหลักวิทยาศาสตร์ เป็นหลักที่สอดคล้องกับหลักเหตุและผลของคำสอนในทางพระพุทธศาสนา
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ประกอบด้วย วิชาสังคมศึกษา วิชาพระพุทธศาสนา วิชาประวัติศาสตร์ จะทำให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์อันน่าประทับใจ ด้วยการเรียนการสอนทั้งในและนอกสถานที่ เมื่อการศึกษาผู้เรียนจะได้รู้จักดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข และเป็นผู้นำในสังคม
- กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้เรียนได้เรียนเกี่ยวกับรักษาสุขภาพด้วยวิธีต่างๆ การออกกำลังกายตามสมณสารูปแบบวีถีพุทธ จะทำให้ผู้เรียนมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี เหมาะแก่ความเป็นสมณะ
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
เป็นวิชาแห่งจินตนาการ ผู้เรียนจะได้เรียนทักษะแห่งการวาดรูป งานด้านพุทธศิลป์ต่างๆ เพื่พัฒนาจิตของผู้เรียนให้เป็นผู้มีสมาธิและสามารถผลิตผลงานด้านพุทธศิลป์ได้อย่างวิจิตร
- กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ประกอบด้วย วิชางานฝีมือ งานประดิษฐ์ งานช่าง งานคอมพิวเตอร์ และงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผู้เรียนจะได้ฝึกทางด้านฝีมือการงานอาชีพและเทคโนโลยี ทำหน้าที่เป็นศาสนทายาทอย่างเต็มที่ พร้อมที่ศึกษาต่อและดำเนินชีวิต ได้อย่างเต็มภาคภูมิในสังคม
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างประเทศ
วิชาภาษาอังกฤษ วิชาสู่ความรู้สู่สากล ผู้เรียนจะได้เรียนภาษาอังกฤษครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน และเขียน
วิชาภาษาบาลี (ภาษาพุทธพจน์) ผู้เรียนจะได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ผ่านทางภาษาบาลี
- จุดเน้นของโรงเรียน (เป้าประสงค์ของโรงเรียน)
1. ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้อย่างมีความสุข มีคุณธรรม มีคุณภาพตามหลักสูตร ตามมาตรฐานการศึกษา
2. ครู มีความรู้ความสามารถ มีทักษะในการจัดกระบวนการเรียนการสอน อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
4. โรงเรียนได้รับการสนับสนุนทรัพยากรเพิ่มขึ้น
- เรามีความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาสถานศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ โดยจัดห้องสมุด เป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องพยาบาล สวนสมุนไพรโรงเรียน และแหล่งการเรียนรู้ของทางวัดหรือนอกสถานศึกษา คือ องค์หลวงพ่อเพชร ศิลปะปูนปั้นรามเกียรติ์รอบศาลาบริหารคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดพิจิตร และบึงสีไฟ
- นอกจากกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนแล้ว นักเรียนทุกรูปจะได้รับไปทัศนศึกษาฟรีตามที่โรงเรียนจัดให้ บริการห้องสมุด ถวายสมุด ปากกา หนังสือยืมเรียน กระเป๋าหนังสือ ผ้าไตรจีวร ที่นอน ภัตราหารเพลและน้ำปาณะทุกเย็น ฟรีตลอดการศึกษา แล้วได้รับการดูแล ตรวจสุขภาพ โดยสาธารณสุข โรงพยาบาลพิจิตร , ได้รับการบรรพชาสามเณรร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรและคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร โดยได้ผ้าไตรพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร , มีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่เรียนดีและประพฤติดี , มีทุนการศึกษาของมุลนิธิพระฑีฆทัสสีมุนีวงศ์ วัดท่าหลวงพระอารามหลวง สำหรับนักเรียนที่สอบผ่านภาษาบาลี , ม. 3 และ ม. 6 มีโคตาสถานศึกษา ที่มีชื่อเสียงศึกษาต่อ
- แนวทางการศึกษาต่อ จบม. 3 หรือ ม. 6 มีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่าสถาบันการศึกษาอื่นๆ ทุกประการ รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ จบ ม. 6 มีโคตาต่อมหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- ด้วยการพัฒนาสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้โรงเรียนได้รับรางวัลเกียรติยศต่างๆ มากมาย
CONCLUSION…โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา พร้อมแล้วที่จะพัฒนาศาสนทายาทในพระพุทธศาสนา ให้เป็นผู้มีความขยัน อดทน เพราะเป็นหลักธรรมพื้นฐาน ของความสำเร็จทุกประการ สมดั่ง ปรัชญาสถานศึกษาที่ว่า
“ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก” (พูดจบ)
เสียงดนตรี ภาพ ตัวหนังสือ (ผู้สนับสนุนการศึกษา) โรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา ,สำนักงานพระพุทธศาสนา , วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จังหวัดพิจิตร , กระทรวงวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ,องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร , ข้าราชการภายในจังหวัดพิจิตร ,